Tuesday, November 01, 2005

วันไหนที่ไม่วุ่น



มีวันไหนบ้างที่ชีวิตไม่วุ่นหัวหมุนเป็นลูกข่างตั้งแต่มีลูก ไม่มีเลย...ไม่มีวันไหนที่จะได้นั่งทอดหุ่ยทอดสายตาชมนกชมไม้สบายใจไร้กังวล เพราะต้องคอยกวาดตามองไปรอบด้านกว้าง 360 องศา เคยคิดเล่นๆ ว่าเอาเรดาร์มาติดไว้บนหัวคอยสอดส่องลูกให้แทนได้ ...คงจะดีไม่น้อย (อาจจะช่วยลดอาการคอเคล็ดหรือคอหลวมได้บ้างในบางวัน หรือคออาจจะหักเข้าสักวันเพราะริแบกเรดาร์)ก็เพราะเมื่อเผลอไผลไปชั่วแป๊บลืมกวาดตาสอดส่องสมุนน้อยในบ้านผู้แอบไปซุ่มเงียบ...ก็จะต้องเจออะไรที่เละเทะแถมเมื่อนั้น

วันนี้ก็วุ่นเหมือนทุกวัน แต่วุ่นกระจายออกไปนอกบ้าน หัวเลยหมุนประหลาดๆเหมือนน็อตหลุดหายไป 2 ตัว สมองหลวมๆ พิลึก สงสัยจะเคยตัวกับการหมุนอยู่ตามผนังบ้านมากเกินไป วันไหนมีอันต้องผลุบเข้าผลุบออกวิ่งโร่ไปโน่นมานี่ - เลยชักมึน (เอ...หรือว่าชักแก่...อุบส์)

เหตุเพราะครูที่โรงเรียนมาถามว่า ว่างพอไปร่วมกิจกรรมเดินป่าฤดูใบไม้ร่วงกับห้องลิงได้ไหม...วันอังคารนี้? พอดีรถยนต์อยู่บ้าน เจ้าตะหลิวไปโรงเล่น เหลือเจ้าตะกร้าติดบ้านอยู่ตัวเดียวกระเตงไปร่วมได้ เลยอาสาไปช่วยนำเด็กเดินป่า (สวนของเมืองที่อยู่หลังบ้านเรานี่เอง เดินไปโปรยขนมปังเลี้ยงเป็ดบ่อยๆ)และหอบเด็กติดรถรับ-ส่งจากโรงเรียนไปสวนได้อีก 2 คน ...เลยไปช่วยลุยคุมเด็กดูสักตั้ง (เคยคุมมาครั้งแล้วก็สนุกดี)จริงๆ หากมีเวลาและสถานการณ์เป็นใจ ฉันชอบไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนให้บ่อยเท่าที่จะบ่อยได้ เพราะอยากได้รับรู้พฤติกรรมตุ่นที่โรงเรียน และถือเป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสการเรียนรู้มือหนึ่งจากครูและเด็กๆ

การไปเดินนำเด็ก(พร้อมสาธยายสื่อการสอนนอกห้องที่ครูแจกเป็นคู่มือมาให้)เพื่อไปพิชิตกิจกรรมตามจุดทดสอบ 8 จุด ไม่ค่อยเหนื่อยหนักเท่าไหร่ แต่เหนื่อยกับการพะวงลุ้นในใจตัวเองเรื่องการใช้เวลาว่า เด็ก 5 คนในกลุ่มที่รับผิดชอบจะอ้อยสร้อยเดินทำกิจกรรมตามจุดกินเวลามากกว่าที่คิดแค่ไหน? เพราะฉันมีภาระต้องไปรับเจ้าตะหลิวจากโรงเล่นให้ทันก่อนเที่ยง

แล้วก็จริงๆ แผนแรกที่คิดว่าจะต้อนเด็กกลับขึ้นรถไปส่งที่โรงเรียนก่อน แล้วบึ่งกลับไปรับที่ตะหลิวไม่เป็นไป เพราะเด็กๆ เดินย้ายไปย้วยมาเหมือนลูกปู (กระด้งก็ไม่ได้หยิบติดมือไป เลยจับใส่กระด้งไม่ได้)ต้องมีอันเปลี่ยนแผนย้ายเก้าอี้มาเบาะหน้า 1 อันให้เจ้าตุ่นนั่ง ยันเจอะนั่งด้านหลังเลยไม่ต้องใช้เบาะเสริม (แต่รัดเข็มขัดแน่นหนา ลูกชาวบ้านก็ต้องดูแลให้ปลอดภัยเหมือนลูกเรา) แล้วบอกครูว่าขอแวบไปรับตะหลิวก่อน แล้วจะพา 2 สหายคู่หูไปส่งที่โรงเรียนให้ทันอาหารกลางวัน เลยขับรถวนรับ-ส่งลูกตัวเองและลูกชาวบ้านไปรอบเมืองด้วยอาการร้อนรน แต่ดีว่าแผนสองเรียบร้อยดี ไม่มีเลท ...โล่งอกไป เพราะใจมันสั่นระทึกกับเข็มนาฬิกา!

อยากเล่าเรื่องกิจกรรมของเด็กๆ นอกห้องเรียน แต่คืนนี้บันทึกต่อไม่ไหวล่ะ เมื่อบ่ายคุณเธอที่บ้านเขาอยากทำคุกกี้ เลยต้องลงไปละเลงกับเธอๆ แล้วตบท้ายงานครัวต่อด้วยการเตรียมอาหารเย็นปั่นเนื้อปลามาทำทอดมัน-กว่าจะได้กิน กว่าจะล้างเก็บครัวเสร็จ ได้เวลาไปฟิตเนสพอดี กลับมาอีกที่สี่ทุ่มครึ่ง โอ้ ...เวลาหมดไปอีกวัน : (

เฮ้อ...เมื่อยตัวเมื่อยหลัง ได้เวลาไปล้มทับฟูกอ่านหนังสือสัก 15 หน้าก่อนหลับแล้วฝันถึงของกินที่เมืองไทยในอีก 5 อาทิตย์หน้าให้สาสมกับความวุ่นที่เผาผลาญพลังงานชีวิตไปอีกวัน...ดีกว่า

0 Comments:

Post a Comment

<< Home